คลินิกแก้หนี้ ปรับหลักเกณฑ์ช่วยหนี้เสียก่อน 1 เม.ย. 65 ได้สิทธิจ่ายเท่าที่ไหว

คลินิกแก้หนี้ ปรับหลักเกณฑ์ช่วยหนี้เสียก่อน 1 เม.ย. 65 ได้สิทธิจ่ายเท่าที่ไหว

ข่าวที่ว่า ทางโครงการ คลินิกแก้หนี้ ได้มีการปรับหลักเกณฑ์สำหรับลูกหนี้ที่มีหนี้เสียก่อน 1 เม.ย. 65 ให้ได้รับสิทธิจ่ายเท่าที่ไหวนั้น เป็นข่าวจริง (9 พ.ค. 2565) ตามที่มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นเรื่องคลินิกแก้หนี้ ปรับหลักเกณฑ์ช่วยลูกหนี้ที่มีหนี้เสียก่อน 1 เม.ย. 65 ได้สิทธิจ่ายเท่าที่ไหว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา 

โครงการคลินิกแก้หนี้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) ในกลุ่มสินเชื่อบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายระยะเวลาจ่ายคืนและลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้ภาระรายเดือนของลูกหนี้ลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ และจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงปี 2563-2564 โครงการคลินิกแก้หนี้มีมาตรการเพิ่มเติมให้กับลูกหนี้ในโครงการฯ ที่ได้รับผลกระทบโดยผ่อนปรนการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง ซึ่งล่าสุด ภายใต้มาตรการช่วยเหลือ ระยะที่ 3 “ยาสูตรจ่ายเท่าที่ไหว” (กรกฎาคม – ธันวาคม 2564) กำหนดให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ตั้งแต่ร้อยละ 40 ของค่างวดเดิมขึ้นไป จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยร้อยละ 1-2 ต่อปี

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาพบว่ารายได้ของลูกหนี้แต่ละอาชีพยังฟื้นตัวต่างกัน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นช้ากว่ากลุ่มอื่น คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ (กคน.) จึงเห็นชอบให้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติลูกหนี้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPL ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2565 จากเดิมที่กำหนดให้เป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2564

โดยลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป และตั้งแต่เปิดโครงการคลินิกแก้หนี้ จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2565 มีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการสะสมทั้งสิ้นจำนวน 26,701 ราย รวม 80,844 บัญชี ภาระหนี้เงินต้น 6,120 ล้านบาท โดยเฉลี่ยลูกหนี้ 1 ราย มีเจ้าหนี้ 2 ราย และมีค่าเฉลี่ยเงินต้นคงเหลือ 233,457 บาท

ในจำนวนนี้เป็นลูกหนี้ที่เข้าโครงการในช่วงปี 2563-2564 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 จำนวน 20,425 ราย 60,356 บัญชี สำหรับมาตรการช่วยเหลือ ระยะที่ 3 “ยาสูตรจ่ายเท่าที่ไหว” (กรกฎาคม – ธันวาคม 2564) พบว่า ในช่วงดังกล่าว มีลูกหนี้ในโครงการถึงร้อยละ 85 ที่ได้รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารโครงการ หรือติดต่อสมัครผ่านทางเว็บไซต์ (www.คลินิกแก้หนี้.com) LINE (@debtclinicbysam) และ Facebook (คลินิกแก้หนี้ by SAM) รวมทั้ง Call Center โทร. 1443 ได้ทุกวัน เวลา 09:00-19:00 น.

กรุงไทย เริ่มขาย หุ้นกู้ JP Morgan MOZAIC XRP แล้วตั้งแต่วันนี้ – 13 พ.ค.

ธนาคารกรุงไทย (KTB) เริ่มดำเนินการปล่อยขาย หุ้นกู้ อนุพันธ์แฝง กรุงไทย JP Morgan MOZAIC XRP ตั้งแต่วันนี้ (9 พ.ค.) ไปจนถึงวันที่ 13 พ.ค. 2565 (9 พ.ค. 2565) ธนาคารกรุงไทยเปิดจอง หุ้นกู้ อนุพันธ์แฝง กรุงไทย JP Morgan MOZAIC XRP 9-13 พฤษภาคมนี้ ชูจุดเด่นลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย กระจายความเสี่ยง สร้างผลตอบแทนทุกสภาวะตลาด คุ้มครองเงินต้น 100% ตอบโจทย์ลงทุนฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า กรุงไทยในฐานะธนาคารชั้นนำของไทย มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินและการลงทุนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยระหว่างวันที่ 9-13 พฤษภาคม 2565 ธนาคารได้เปิดจองหุ้นกู้อนุพันธ์แฝง “กรุงไทย J.P.Morgan MOZAIC XRP” จ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนีกลุ่ม J.P. Morgan MOZAIC XRP

ซึ่งเป็นดัชนีที่เข้าลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกที่หลากหลาย อาทิ พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น ทองคำ น้ำมัน และสกุลเงินหลักของโลก โดยมีจุดเด่นด้านกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง มุ่งสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องในทุกสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง และคุ้มครองเงินต้น 100% เมื่อถือจนครบกำหนด

จากวิกฤตราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก และเกิดความกังวลว่าทั่วโลกจะประสบปัญหา Stagflation หรือภาวะเงินเฟ้อสูง แต่เศรษฐกิจเติบโตได้น้อย ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักลงทุนที่รอจังหวะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีความผันผวนสูงมากในช่วงที่ผ่านมา

ธนาคารกรุงไทย จึงได้นำเสนอหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงของธนาคาร ประเภทคุ้มครองเงินต้น “กรุงไทย J.P. Morgan MOZAIC XRP” อายุ 3 ปี ความเสี่ยงระดับ 4 โดยมีค่าผลตอบแทนเฉลี่ยจากข้อมูลดัชนีในอดีต ประมาณ 5.02% ต่อปี (ก่อนการแปลงค่าเงิน) เสนอขายแก่นักลงทุนรายใหญ่ และนักลงทุนสถาบันขั้นต่ำ 5 ล้านบาทต่อราย

โดยหุ้นกู้อนุพันธ์แฝงรุ่นนี้ จะจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนีกลุ่ม J.P. Morgan MOZAIC XRP (MOZAIC XRP) ซึ่งเป็นดัชนีที่กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทั่วโลก อาทิ พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น ทองคำ น้ำมัน) และสกุลเงินหลักของโลก โดยมีจุดเด่นด้านกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง มุ่งสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป